เกรแฮม พ็อตเตอร์ เดินทางไปยัง เชลซี เพื่อพูดคุยเรื่องงานในตำแหน่งเฮดโค๊ช

เกรแฮม พ็อตเตอร์ ผู้จัดการทีมที่หลายคนมองว่าเขาจะเข้ามาคุมทีม เชลซี ในอนาคตกำลังเดินทางไปลอนดอนเพื่อเข้าพบปะและพูดคุยกับ ท็อดด์ โบห์ลีย์ เจ้าของร่วมของ เชลซี ซึ่งตอนนี้เขาน่าจะเป็นคนที่มีโอกาสเข้ามารับหน้าที่เฮดโค๊ชของ เชลซี ต่อจาก โทมัส ทูเคิล มากที่สุดหลังจากที่ โทมัส ทูเคิล ได้ถูกไล่ออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังพาทีมพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ ในการแข่งขันนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มในการแข่งขัน แชมเปี้ยนส์ลีก

กุนซือของ ไบรท์ตัน รายนี้ได้มีข่าวเชื่อมโยงในการย้ายไปคุมทีมให้กับทีมระดับท็อปของ พรีเมียร์ลีก มาอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็ยังคงคุมทีม ไบรท์ตัน อยู่จนถึงทุกวันนี้ และยังสามารถช่วยให้ ไบรท์ตัน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ที่สามารถพาทีมรั้งอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนได้หลังจากลงสนามไปแล้วทั้งหมด 6 นัด โดยเขาสามาถพาทีมเก็บชัยมาได้ 4 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด

ในตอนนี้มีการคาดการณ์ว่า เกรแฮม พ็อตเตอร์ จะเข้าพบกับ ท็อดด์ โบห์ลีย์ พร้อมกับคณะกรรมการของสโมสรเพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งตั้งเขาเป็นเฮดโค๊ชคนใหม่ของ เชลซี ในบ่ายวันนี้ตามเวลาของประเทศอังกฤษ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจากันได้อย่างลงตัว เชลซี ก็น่าจะประกาศแต่งตั้งเขาเป็นกุนซือคนใหม่อย่างเร็วที่สุดก่อนเกม พรีเมียร์ลีก ในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ทางด้านของ ไบรท์ตัน เองก็ยินดีที่จะให้ เกรแฮม พ็อตเตอร์ สามารถเจรจากับ เชลซี ได้อย่างอิสระ แต่คาดว่า เชลซี จะต้องจ่ายเงินเป็นมูลค่าเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านปอนด์เพื่อที่จะซื้อตัวกุนซือของ ไบรท์ตัน ไปร่วมทีม และ เกรแฮม พอตเตอร์ ก็อาจจะได้ประเดิมคุมทีมในเกมวันเสาร์นี้ที่จะพบกับ ฟูแล่ม เลยหากเขาเซ็นสัญญากับ เชลซี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ฟูแล่ม จะรอดพ้นวิกฤตตกชั้นได้แน่หรือ?

เคลาดิโอ รานิเอรี่ ประกาศการอยู่รอดในเวทีพรีเมียร์ลีก หลังจากกลับมาคุมทีมชนะ ไบรท์ตัน ในบ้าน 4-2 โดยที่ เกล็นน์ เมอร์รีย์ ซัดสองประตูในช่วงต้นเกมนาทีที่ 3 และ 17 ทำให้ ฟูแล่ม เป็นฝ่ายตามหลัง แต่ด้วยกึ๋นของ รานิเอรี่ ทำให้เกมกลับมาอยู่ในสิ่งที่เค้าพอใจ โดยการสลับเปลี่ยนตัวปรับแผนและแท็กติกในทันที

ทิม รีม ต้องถูกเปลี่ยนออกตั้งแต่ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก กุนซือ ได้เห็นการป้องกันของปราการหลังห้าตัวที่ไม่ดีพอเปลี่ยนเอา ทอม แคร์นี่ย์ กองกลางเข้าไปแล้วเปลี่ยนสลับมาใช้กองหลังสี่ตัวแทน จากนั้นส่ง ลูเซียโน่ วิเอตโต้ กองหน้าเพิ่มลงไป แทนที่ อังเดร ชูรร์เล กองกลาง ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จนทำให้ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช จุดประกายความหวังส่งผ่านบอลให้ คัลลัม แชมเบอร์ส วอลเลย์บอลเข้าประตูไปในนาทีที่ 47 จากนั้น จากนั้น มิโตรวิช แสดงความต้องการที่จะเอาชนะให้ได้เพราะกองหลังคู่แข่งเริ่มรวน ทำให้เขาโหม่งทำประตูได้อีกสองลูก วิเอตโต้ ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกเป็นลูกปิดท้ายเกมที่ยอดเยี่ยม

“มันหมายถึงพวกเรายังสามารถรอดพ้นวิกฤตนี้ได้” รานิเอรี่ แถลงข่าวที่ เครเวนคอตทิจ บ้านของฟูแล่ม ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

“มันอาจจะเป็นเพียงการก้าวเพียงเล็กน้อย แต่นั้นหมายความว่าพวกเรามีโอกาสรอดพ้นตกชั้นและต้องการเห็นวิญญาณการต่อสู้นี่อีกครั้งในโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมดแม้จะยากลำบาก”

“มันเป็นเกมการแข่งขันที่น่าประหลาดใจมาก เราตามหลังจากนาทีที่ 17 ถึง 2-0  ผมได้พูดออกไปว่าเชื่อผมสิแม้จะตามหลังก็ตามพวกเราจะกลับมาได้ พวกเขามีการตอบสนองและเมื่อ คัลลัม แชมเบอร์ส ยิงประตูได้ยิงสร้างความมั่นใจที่ว่าเราสมควรได้รับชัยชนะ”

“คืนนี้เราต้องมอบรางวัลผู้เล่นที่ดีที่สุดให้กับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช เขาเป็นตัวยิงอันตรายในกรอบเขตโทษ และที่สำคัญเขายังส่งผ่านบอลให้ แชมเบอร์ส ทำประตูได้อย่างสุดสวยอีกด้วย เราต้องมีศรัทธาอยู่เสมอ ฉันบอกให้ผู้เล่นของผมสนุกไปกับการแข่งขัน แต่พรุ่งนี่เช้าเราจะเริ่มต้นกันใหม่”

คริส ฮิวตัน รู้สึกผิดหวังที่พลาดโอกาสเก็บชัยไปอย่างฉงนใจ ตอนนี้ไบรตันได้รับชัยเพียง 1 ใน 9 เกมที่ผ่านมาในการลงแข่งขันพรีเมียร์ลีก

นายใหญ่ ไบรตัน ยังกล่าวไว้อีกว่า “เราเล่นดีในครึ่งแรกเท่านั้น สิ่งที่เลวร้ายของเราอยู่ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ผมคิดว่าเรามีโอกาสทำประตูเพิ่มได้อีกในขณะที่เรายังนำอยู่ จนกระทั่งโดนยิงตามมา 2-1 ทันทีที่พวกเขาตามตีเสมอเป็น 2-2 กลายเป็นเรื่องยากสำหรับเรา”

“เราปล่อยให้พวกเขามีพื้นที่และเวลา ใช้ผู้เล่นเพียง 3 คนก็ยิงเราได้แล้ว มันเป็นความน่าอายที่เราเล่นได้ดีแค่ในครึ่งเวลาแรก เราไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องในครึ่งเวลาหลัง”

“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงชัยชนะนัดแรกของ ฟูแล่ม ในปี 2019 ที่ระเบิดฟอร์มเก่งให้ออกมาได้ด้วยกึ๋นของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ยังมีเวลาเหลืออีก 14 นัด ที่ต้องดิ้นรนและพิสูจน์ว่า “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม มีดีพอจะอยู่ต่อโลดแล่นในเวทีพรีเมียร์ลีกของอังกฤษได้หรือไม่ มาลุ้นหาคำตอบกัน”