เคลาดิโอ รานิเอรี่ ประกาศการอยู่รอดในเวทีพรีเมียร์ลีก หลังจากกลับมาคุมทีมชนะ ไบรท์ตัน ในบ้าน 4-2 โดยที่ เกล็นน์ เมอร์รีย์ ซัดสองประตูในช่วงต้นเกมนาทีที่ 3 และ 17 ทำให้ ฟูแล่ม เป็นฝ่ายตามหลัง แต่ด้วยกึ๋นของ รานิเอรี่ ทำให้เกมกลับมาอยู่ในสิ่งที่เค้าพอใจ โดยการสลับเปลี่ยนตัวปรับแผนและแท็กติกในทันที
ทิม รีม ต้องถูกเปลี่ยนออกตั้งแต่ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก กุนซือ ได้เห็นการป้องกันของปราการหลังห้าตัวที่ไม่ดีพอเปลี่ยนเอา ทอม แคร์นี่ย์ กองกลางเข้าไปแล้วเปลี่ยนสลับมาใช้กองหลังสี่ตัวแทน จากนั้นส่ง ลูเซียโน่ วิเอตโต้ กองหน้าเพิ่มลงไป แทนที่ อังเดร ชูรร์เล กองกลาง ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จนทำให้ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช จุดประกายความหวังส่งผ่านบอลให้ คัลลัม แชมเบอร์ส วอลเลย์บอลเข้าประตูไปในนาทีที่ 47 จากนั้น จากนั้น มิโตรวิช แสดงความต้องการที่จะเอาชนะให้ได้เพราะกองหลังคู่แข่งเริ่มรวน ทำให้เขาโหม่งทำประตูได้อีกสองลูก วิเอตโต้ ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกเป็นลูกปิดท้ายเกมที่ยอดเยี่ยม
“มันหมายถึงพวกเรายังสามารถรอดพ้นวิกฤตนี้ได้” รานิเอรี่ แถลงข่าวที่ เครเวนคอตทิจ บ้านของฟูแล่ม ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ
“มันอาจจะเป็นเพียงการก้าวเพียงเล็กน้อย แต่นั้นหมายความว่าพวกเรามีโอกาสรอดพ้นตกชั้นและต้องการเห็นวิญญาณการต่อสู้นี่อีกครั้งในโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมดแม้จะยากลำบาก”
“มันเป็นเกมการแข่งขันที่น่าประหลาดใจมาก เราตามหลังจากนาทีที่ 17 ถึง 2-0 ผมได้พูดออกไปว่าเชื่อผมสิแม้จะตามหลังก็ตามพวกเราจะกลับมาได้ พวกเขามีการตอบสนองและเมื่อ คัลลัม แชมเบอร์ส ยิงประตูได้ยิงสร้างความมั่นใจที่ว่าเราสมควรได้รับชัยชนะ”
“คืนนี้เราต้องมอบรางวัลผู้เล่นที่ดีที่สุดให้กับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช เขาเป็นตัวยิงอันตรายในกรอบเขตโทษ และที่สำคัญเขายังส่งผ่านบอลให้ แชมเบอร์ส ทำประตูได้อย่างสุดสวยอีกด้วย เราต้องมีศรัทธาอยู่เสมอ ฉันบอกให้ผู้เล่นของผมสนุกไปกับการแข่งขัน แต่พรุ่งนี่เช้าเราจะเริ่มต้นกันใหม่”
คริส ฮิวตัน รู้สึกผิดหวังที่พลาดโอกาสเก็บชัยไปอย่างฉงนใจ ตอนนี้ไบรตันได้รับชัยเพียง 1 ใน 9 เกมที่ผ่านมาในการลงแข่งขันพรีเมียร์ลีก
นายใหญ่ ไบรตัน ยังกล่าวไว้อีกว่า “เราเล่นดีในครึ่งแรกเท่านั้น สิ่งที่เลวร้ายของเราอยู่ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ผมคิดว่าเรามีโอกาสทำประตูเพิ่มได้อีกในขณะที่เรายังนำอยู่ จนกระทั่งโดนยิงตามมา 2-1 ทันทีที่พวกเขาตามตีเสมอเป็น 2-2 กลายเป็นเรื่องยากสำหรับเรา”
“เราปล่อยให้พวกเขามีพื้นที่และเวลา ใช้ผู้เล่นเพียง 3 คนก็ยิงเราได้แล้ว มันเป็นความน่าอายที่เราเล่นได้ดีแค่ในครึ่งเวลาแรก เราไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องในครึ่งเวลาหลัง”
“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงชัยชนะนัดแรกของ ฟูแล่ม ในปี 2019 ที่ระเบิดฟอร์มเก่งให้ออกมาได้ด้วยกึ๋นของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ยังมีเวลาเหลืออีก 14 นัด ที่ต้องดิ้นรนและพิสูจน์ว่า “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม มีดีพอจะอยู่ต่อโลดแล่นในเวทีพรีเมียร์ลีกของอังกฤษได้หรือไม่ มาลุ้นหาคำตอบกัน”