มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ของทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ออกมาขอโทษแฟนบอลหลังเกมที่พวกเขาเปิดบ้านปราชัยให้กับ ลิเวอร์พูล ไปด้วยสกอร์ 3-0 พร้อมทั้งยอมรับว่าเขาช็อคกับการพ่ายแพ้แบบขาดลอยมากถึง 10 ประตู

เป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล สร้างความแตกต่างได้นับตั้งแต่ส่ง ดิโอโก้ โชต้า ลงมาก่อนที่จะช่วยให้ทีม “หงส์แดง” ทำได้ถึง 3 ประตู แม้ว่าในครึ่งแรกจะเสมอกันไปแบบไม่มีสกอร์

“พวกเราสมควรที่จะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน พวกเขาดีกว่าพวกเราในทุกๆด้านและพวกเราสมควรที่จะแพ้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ ผมยอมรับว่าเราจะต้องรับผิดชอบกับการเล่นของเราในวันนี้” มิเกล อาร์เตต้า กล่าวกับ Sky Sports

“ลิเวอร์พูล สมควรที่จะชนะ บางทีเราควรจะแพ้มากกว่า 3 ประตู พวกเรามีฟอร์มการเล่นที่แย่มากๆ พวกเราต้องขอโทษแฟนบอลด้วยจริงๆ พวกเราทำการตัดสินใจได้ถูกต้อง แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้น มันเป็นความผิดของผมเอง ผมต้องจัดทีมที่แตกต่างไปจากนี้ แต่กระนั้นเราก็ต้องแสดงความยินดีกับ ลิเวอร์พูล พวกเขาเล่นฟุตบอลในระดับที่สุงกว่าพวกเรา”

เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่สายร็อคของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แสดงความมั่นใจว่าทีมของเขาจะสามารถกลับมายิงประตูได้อย่างแน่นอน แม้ว่าลูกทีมของเขาจะไม่สามารถทำประตูได้เป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันแล้วก็ตาม

แมเว่า ลิเวอร์พูล จะทำสถิติไม่แพ้ใครในบ้าน 68 เกมเข้าไปแล้ว แต่กระนั้นก็มีสถิติหนึ่งที่พวกเขาไม่สามารถยิงประตูได้ 3 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2005

“พวกเรามีคะแนนมากกว่าที่เราคาดหวังไว้ก่อนเกมนี้ พวกเรามีฟอร์มการเล่นที่ดีมากำอสำหรับเอาชนะในเกมนี้(กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) แต่คุณต้องทำประตู้ให้ได้และพวกเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้”

“นี่คือเหตุผลที่มันเกิดผลการแข่งขันแบบนั้น มันไม่มีอะไรที่แตกต่างไปเกี่ยวกับพื้นฐานการเล่นของพวก สิ่งที่ต่างไปเป็นแค่เพียงผลการแข่งขันเท่านั้น”

“วันนี้พวกเราพยายามและต้องการที่จะทำประตูให้ได้ แต่พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นกังวล พวกเราหวังว่าจะทำประตูได้เร็วๆนี้ ทีมที่เราเล่นด้วยเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมมากๆและกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี พวกเขาเล่นเล่นสวนกลับได้ดีและก็ต้องการทำประตูเพื่อเอาชนะด้วยเช่นกัน”

กองหน้าชาวบราซิลรายนี้ ประสบปัญหาในเรื่องการทำประตู แต่ล่าสุด ก็สามารถกลับมาทำประตูให้กับสโมสรได้อีกครั้งแล้ว

เจม มิลเนอร์ ออกมายอมรับว่า โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ นั้นเป็นกองหน้าที่โชคร้ายที่สุดในโลก หลังจากที่เขาไม่สามารถทำประตูได้สักเท่าไหร่ จนกระทั่งเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เขา กลับมาทำประตูได้อีกครั้ง

เจอร์เก้น คล็อปป์ สามารถพา ลิเวอร์พูล ชุดที่ไม่เต็ม 100 เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 0 ซึ่งเป็นประตูของ เฟอร์มิโน่ 1 ประตูด้วยกัน “บ็อบบี้ น่าจะเป็นกองหน้าที่โชคร้ายที่สุดในโลก เขาสมควรทำประตูได้ เพราะผลงานของเขาโดดเด่นอย่างมาก” มิลเนอร์ กล่าว

“เขาเล่นครึ่งแรกได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ครึ่งหลังอาจจะดร็อปลงนิดหน่อย เขาอาจจะเหนื่อย เพราะพึ่งไปเล่นทีมชาติมา แต่เขาก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผมดีใจที่เขาสามารถทำประตูในเกมนี้ได้ ซึ่งหวังว่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเขาเช่นกัน”

สำหรับเกมเปิดบ้านของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่จะพบกับสเปอร์ส มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งบรรดานักวิจารณ์ฟุตบอลจากอังกฤษมองว่า เกมนี้จะเป็นการชี้ชะตาระหว่างทั้งสองทีม ว่าโอกาสที่ลิเวอร์พูลจะก้าวเข้าสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์ลีกนั้นมีมากน้อยแค่ไหน หรือสเปอร์จะคืนฟอร์มเก่งได้หรือไม่ 

ก็คงจะต้องวัดกันในนัดนี้เพราะหงส์แดงแม้ว่า จะมีฟอร์มที่ยังอยู่ในมาตรฐาน จากเกมล่าสุดที่ทำผลงานได้ดีทั้งในเกมลีกและเกมถ้วย แต่กับเกมนัดนี้ถือว่าเจอคู่แข่งในระดับเดียวกันก็น่าจะเป็นการวัดผลได้ดีกว่าส่วนสเปอร์เองก็ดูเหมือนฟอร์มจะดีขึ้น จากปัญหาภายในทีมที่มีข่าวลือต่างๆดังนั้นเกมนี้ก็เป็นเกมสำคัญของทั้งสองฝ่ายเช่นเดียวกัน

และเกมนี้ก็ยังเป็นการวัดแผนของกุนซือทั้งสองฝ่าย ว่าจะแก้ปัญหาที่ผ่านมาได้อย่างไร เพราะแม้ว่าลิเวอร์พูลจะทำสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันมาได้หลายนัด แต่กับเกมนี้ก็ไม่ใช่งานง่าย ก็ต้องดูว่าพวกเขาจะรักษาสถิติได้หรือ สเปอร์เองก็คงจะต้องลุ้นกับฟอร์มการเล่นของนักเตะว่านัดนี้ยังจะสามารถสามารถเค้นฟอร์มดุออกหรือเปล่า 

สำหรับนายด่านรายนี้ แม้ว่าจะย้ายมาได้ไม่นานเท่าไหร่และโชว์ผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง ถึงว่าจะยังไม่เทียบท่ากับ อลิซอน เบคเกอร์ เจ้าของตำแหน่งตัวจริงก็ตาม แต่แหล่งข่าววงในระบุการที่หงส์แดงฟอร์มดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไว้วางใจ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมนั้นค่อนข้างที่จะยอมรับเขาพอสมควรเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็น ไวนัลดุม หรือผู้เล่นคนอื่นๆรวมถึงแฟนบอลหงส์แดงเอง ซึ่ง ไวนัลดุ ได้กล่าวผ่านสื่อสโมสรว่าเอเดรียน เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ ดีเป็นคนที่มีทัศนคติที่ และมีความพยายามในทุกเกม เขาทำงานร่วมกับพวกเราได้ดีกว่าที่เราคาดไว้ ทำให้ทุกคนวางใจในการมีเขาในสนาม 

ซึ่งไวนัลดุม กล่าวต่ออีกว่าแม้ว่าจะร่วมงานกันได้ไม่นาน แต่เขาก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเอง และตั้งใจทำผลงานให้ดีในทุกนัด ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมพวกเราถึงยอมรับเขาได้อย่างรวดเร็ว และเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีม